14 ก.ย. 2564 20:04   2435 ผู้ชม
 

10 วิธีหางานอย่างไรไม่ให้โดนหลอก

พิจารณาง่ายๆดังนี้

1. มีที่อยู่เป็นตัวเป็นตน มีออฟฟิศ มีหน้าร้าน มีชื่อบริษัท หรือข้อมูลต่างๆที่เชื่อถือได้ ขอแนะนำว่าให้ไปดูที่ทำงานด้วยตัวเองให้เห็นกับตาจะดีที่สุด

2. หากไม่แน่ใจว่าบริษัทมีตัวตนจริงหรือไม่ ท่านสามารถนำชื่อบริษัทหรือที่ทำงานไปค้นหาได้จาก

- เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า https://datawarehouse.dbd.go.th

- เว็บไซต์ dataforthai https://www.dataforthai.com

3. เมื่อสมัครงาน ที่ทำงานปกติมักไม่ร้องขออะไรจากเราก่อนเริ่มงาน เช่น โอนเงินค่าสมัคร(ที่ค่อนข้างแพง) ถ้าเจอว่าต้องโอนเงินก่อนเริ่มงาน ไม่ว่าจะเป็นค่าสมัคร, ค่าชุดทำงาน, ค่าอุปกรณ์ ให้ระวังให้ดี

4. แต่อย่าสับสนกับเงินประกัน งานบางตำแหน่ง และบางที่ทำงานจะขอให้เราวางเงินประกัน เพื่อให้เราไม่ทิ้งงานระหว่างการทำงาน อย่านำไปรวมกับแบบแรก และการเรียกเงินประกันจากนายจ้าง จะทำกันก็ต่อเมื่อเขารับเราทำงาน เราได้เข้าไปในออฟฟิศ เห็นออฟฟิศเป็นหลักเป็นการแน่นอนแล้ว

5. การสมัครงานผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line) และ Google Form มีหลายที่ทำงานที่ขอให้เรากรอกประวัติทางช่องทางนี้ ขอให้ดูว่าที่ทำงาน มีที่อยู่เป็นตัวเป็นตน มีหน้าร้านชัดเจน หรือมีชื่อในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือไม่

6. หากมีการเรียกร้องขอเลขบัญชี ซึ่งผู้ไม่ประสงค์ดีมักจะขอเพื่อโอนเงินค่าจ้างให้ ให้ระมัดระวัง ที่ทำงานปกติจะไม่ขอเลขบัญชีของเราจนกว่าเราจะได้ไปเริ่มทำงานที่ออฟฟิศอย่างจริงจัง (รวมถึงเอกสารส่วนตัว เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, หนังสือมอบกรรมสิทธิ์, username password ของท่าน ฯลฯ)

7. ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดนี้ การทำงานแบบ work form home กำลังเป็นที่นิยม ทำให้มิจฉาชีพสบโอกาสในการหลอกลวงคนที่กำลังหางาน จงสังเกตชื่อที่ทำงาน หน้าที่ในการทำงาน ที่อยู่ของบริษัทให้ดีก่อนสมัคร

8. ธุรกิจผิดกฎหมายและการพนันก็กำลังหลอกคนเข้าร่วมโดยการสมัครงาน ขอให้ท่านใช้วิจารณญาณในการพิจารณาให้จงหนัก

9. ระวังการคลิกลิงค์แปลกๆ ผู้ไม่หวังดีทำทีเป็นคนรับสมัครงานส่งมาให้ อาจเป็นไวรัสหรือเป็นการหลอกเอาข้อมูลเลขบัญชี username และ password ดูการป้องกันได้ที่

- https://www.catcyfence.com/it.../article/what-is-phishing ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.catcyfence.com

- https://www.thaicert.or.th/.../general/2012/pa2012ge007.html ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.thaicert.or.th

10. "งานสบาย รายได้ดี ไม่มีจริง"

สุดท้ายนี้ "อย่าอยากได้งานได้เงินมากกว่า สวัสดิภาพของตัวท่านเองและครอบครัว"

ตัวอย่างการรับสมัครงานที่หลอกลวง

https://www.bigcamera.co.th/.../clarification-documents... กรณีศึกษามิจฉาชีพปลอมเป็นร้าน BIG camera ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.bigcamera.co.th

https://www.cm108.com/w/35072 เตือนภัยหลอกรับสมัครงาน ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.cm108.com

https://www.nationtv.tv/main/content/378798210 กรณีศึกษา "สาวโดนหลอกให้สมัครงานเสียเงินฟรี" ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.nationtv.tv

Like

Facebook Comment

บทความน่าสนใจอื่นๆ

https://soundcloud.com/daypoets/the-momentum-carpe-diem-ep013  ประสบการณ์สมัครงานครั้งแรก 02.35 ประสบการณ์การสมัครงานครั้งแรกของหนุ่มเมืองจันท์นั้นเริ่มต้นจากการชักชวนของรุ่นพี่ ว่าตอนนี้ที่มติชนกำลังรับสมัครนักข่าวอยู่ แม้จะจบออกมาด้วยเกรดที่ไม่ดีนัก แต่ด้วยประสบการณ์ที่ทำกิจกรรมนักศึกษา ต้องหาข้อมูลความรู้รอบตัวและข่าวสารบ้านเมืองเยอะก็ทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น เมื่อถึงรอบสัมภาษณ์ก็สามารถตอบคำถามได้จากการติดตามอ่านข่าวอยู่เป็นประจำ ส่วนของวงศ์ทนงนั้นก็จบมาด้วยเกรดที่ไม่ต่างจากหนุ่มเมืองจันท์นัก แต่สิ่งที่มีคือพอร์ตโฟลิโอที่เก็บรวบรวมผลงานเอาไว้ เมื่อไปสมัครงานนิตยสารก็มีงานเขียนทั้งหนังสือทำมือและงานเขียนที่ได้ลงนิตยสารจริง ซึ่งสองสิ่งนี้นี่เองที่ทำให้วงศ์ทนงได้งาน   a team junior 05.35 จากประสบการณ์การขอฝึกงานของวงศ์ทนงเองที่รู้สึกว่าเวลาไปขอฝึกแต่ละที่ทำไมมันยากจัง และเมื่อได้เข้าไปก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ ทำให้เมื่อได้ทำนิตยสารอะเดย์เขาเลยคิดทำโครงการ a team junior ที่รับนักศึกษามาฝึกงานแบบมืออาชีพขึ้นมา นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะได้ทำงานจริงตลอดระยะเวลาสามเดือน มีพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ได้อยู่ในบรรยากาศการบรีฟงานจริงอย่างมืออาชีพ และเล่มสุดท้ายในเดือนที่สามจะเป็นเล่มที่ทีมจูเนียร์จะได้ทำเองทั้งเล่ม ซึ่งโครงการนี้ก็ได้รับความสนใจมาตลอดทุกปี   พอร์ตโฟลิโอ 08.29 เวลาสมัครงานนั้น ถ้าเป็นงานด้านความคิดสร้างสรรค์เวลาสมัครงานอาจต้องคิดวิธีเล่าเรื่องในพอร์ตโฟลิโอให้ดี เพื่อให้สะดุดตาจนถูกเรียกไปสัมภาษณ์ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็จะอยู่ที่การสัมภาษณ์อยู่ดีว่าคุณมีของตามที่คุณเขียนมาจริงรึเปล่า   หาจุดแข็ง ลบจุดอ่อน 10.35 จากการรับสมัครคนในหลายๆ หน่วยงาน หนุ่มเมืองจันท์คิดว่าคนที่เข้ามาสมัครงานควรจะรู้ว่าจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองนั้นคืออะไร อย่างตัวหนุ่มเมืองจันท์บอกว่าจุดอ่อนของตัวเองคือเกรด ก็ต้องหาอะไรมากลบ ต้องชูจุดแข็งของตัวเองขึ้นมาก็คือการทำกิจกรรมนักศึกษา ถ้าทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ก็ต้องชูชิ้นงานที่จะทำให้คนสะดุดกับความคิดสร้างสรรค์ของเรา แต่ถ้าเป็นงานด้านบัญชีก็อาจไม่ต้องโชว์ความคิดสร้างสรรค์ขนาดนั้น แต่โชว์ในสิ่งที่บริษัทนั้นต้องการจากตำแหน่งงานของเรา จากนั้นเมื่อผ่านไปถึงขั้นตอนสัมภาษณ์คุณต้องรู้ให้ได้ว่าบริษัทหรือตำแหน่งงานนั้นต้องการอะไรจากตัวคุณ อย่างเช่นมีคนมาสมัครเป็นนักข่าวเค้าก็ต้องรู้ว่าบริษัทต้องการความรอบรู้ ต้องการการสังเกตุ สกิลในการสัมภาษณ์ ซึ่งการจะแสดงให้บริษัทเห็นถึงตรงนี้ได้ในการสัมภาษณ์งาน เราก็ควรจะต้องเตรียมตัวไปให้ดี เก็งโจทย์ไปก่อน แม้ผู้สัมภาษณ์จะมีวิธีการในการทดสอบเราอีกที แต่การเตรียมตัวไปให้ดีก็สามารถช่วยเราได้มากจริงๆ   โชว์อย่างพอดี 13.56 แม้จะบอกว่าเวลาสมัครงานด้านความคิดสร้างสรรค์เราจะต้องโชว์ไอเดียออกมา หรืองานอื่นๆ ก็ต้องพยายามโชว์ความสามารถ แต่ว่าสิ่งเหล่านี้ก็ต้องมีความพอดีเหมือนกัน ใบสมัครบางคนก็โชว์มากไปจนน่ารำคาญ ถ้าเป็นนักฟุตบอลก็เป็นประเภทเลี้ยงโชว์แต่พื้นฐานไม่ได้แน่นขนาดนั้น อย่างล่าสุดที่วงศ์ทนงเปิดรับสมัครเลขาส่วนตัว ก็มีตัวอย่างจากหลายคนที่ไม่น่าทำตาม อย่างบางคนก็ส่งมาเป็นรูปถ่ายพร้อมข้อความแนบแค่ประโยคเดียวที่ไม่สื่อสารอะไร บางคนก็เขียนชื่อวงศ์ทนงมาผิด แสดงให้เห็นถึงการไม่ทำการบ้าน บางคนก็ไม่รู้ว่าบริษัทนั้นทำอะไรบ้าง ก็ยากที่จะรับมาทำงานด้วยกัน   ความสำคัญของความสามารถพิเศษ 18.43 อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเวลากรอกใบสมัครงานนั่นก็คือคุณสมบัติพิเศษ เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณโดดเด่นออกมาจากคนอื่นได้ ถ้าคุณทำงานในบริษัทที่เกี่ยวกับการใช้ภาษาก็ให้ใส่ไปเลยว่าคุณพูดได้กี่ภาษา ไม่ว่าจะสมัครงานอะไรก็ควรมีความเชี่ยวชาญพิเศษในด้านนั้นๆ จริง ในทางกลับกันการไม่เชี่ยวชาญในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานก็สามารถทำให้คุณชวดงานได้ อย่างเช่นสมัครงานนิตยสารแต่บอกว่าไม่ชอบอ่านหนังสือ หรือสมัครงานพิสูจน์อักษรแต่เขียนผิดในใบสมัคร ก็ควรจะต้องระวังตรงนี้ให้มาก สัมภาษณ์งานแบบหนุ่มเมืองจันท์ 20.51 คำถามที่ถูกถามในการสัมภาษณ์นั้นส่วนมากแล้วจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งงาน สำหรับหนุ่มเมืองจันท์ที่ต้องสัมภาษณ์นักข่าวก็มักจะถามเรื่องความรู้ การสังเกต ทักษะการสัมภาษณ์ ซึ่งจะมีการใส่ความกดดันเข้าไปเพื่อสังเกตว่าเวลาเจความกดดันจะมีปฏิกิริยาอย่างไร หรือตอนที่อยู่ฝ่ายโฆษณาก็มีพี่คนหนึ่งสัมภาษณ์พนักงานขาย เค้าก็หยิบปากกาให้หนึ่งด้ามแล้วบอกว่าคุณลองขายปากกาด้ามนี้ให้ผมซิ หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของสัญชาตญาณ คำถามยอดฮิตที่ยังไงก็ต้องเจอ 22.06 สิ่งที่คุณต้องเจอแน่ๆ คือการแนะนำตัวคุณเองที่ต้องเตรียมตัวไปให้ดี วงศ์ทนงแนะนำว่าไม่ต้องเล่ายาวมาก แต่ให้คัดประวัติสำคัญ สิ่งที่เกี่ยวกับงาน และสิ่งที่น่าสนใจที่สุดมาเล่าให้ฟัง คำถามต่อมาก็จะเป้นคำถามมาตรฐานอย่างทำไมคุณถึงเหมาะกับงานนี้, ทำไมผมต้องรับคุณ, คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทบ้าง และคำถามสุดสำคัญอย่างทำไมถึงออกจากงานเก่า ซึ่งคำถามนี้เวลาตอบนั้นไม่ควรวิจารณ์บริษัทเก่าในมุมลบมากเกินไป เพราะถ้าคุณพูดแง่ลบมากบริษัทที่กำลังสัมภาษณ์คุณอยู่ก็จะคิดว่าในอนาคตบริษัทก็คงจะโดนเหมือนกัน เราควรสรุปในเรื่องหลักการมากกว่า อย่างเวลาไม่ตรงกัน เนื้องานไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ อยากเปลี่ยนสายงาน หรืออยากพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตคือ คุณคิดว่าจุดอ่อนของตัวเองคืออะไร คำถามนี้ทำให้เราเตรียมตัวปรับปรุงและอุดจุดอ่อนตรงนี้ให้ได้ หรืออย่างเวลาบริษัทถามเรื่องเงินเดือนที่คุณอยากจะได้ สิ่งที่คุณควรรู้ไว้ก่อนไปสัมภาษณ์คือฐานเงินเดือนของบริษัทนี้อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ทำการบ้านสักนิดคุณจะได้ตอบได้ ซึ่งคำถามเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องเจอแน่นอน และคุณสามารถเตรียมตัวและฝึกซ้อมไว้ก่อนได้เลย นอกจากสิ่งที่จะถูกถาม เมื่อผู้สัมภาษณ์เปิดโอกาสให้ถามกลับก็มีเรื่องที่ต้องระวังเช่นกัน อย่างเช่นเรื่อสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และวันหยุดต่างๆ ที่เราจะได้รับนั้นเป็นเรื่องที่ยังไม่ควรถามทันทีในครั้งแรกของการสัมภาษณ์งาน แนะนำให้ถามนอกรอบหลังจากสัมภาษณ์เสร็จแล้วจะดีกว่า   ผลลัพธ์ของโซเชียลเน็ตเวิร์ก 28.11 อีหนึ่งเรื่องที่เป็นเรื่องสำคัญในสมัยนี้คือเรื่องโซเชียลเน็ตเวิร์ก ฝ่ายบุคคลสมัยนี้นอกจากใบสมัครแล้ว สิ่งต่างๆ ที่เราทำในอินเทอร์เน็ตก็เป็นอีกหนึ่งความสำคัญในการคัดเลือกคน การแสดงความเห็น ทีท่า ทัศนคติ เพราะเวลาเราทำงานมันก็เป็นเรื่องของนิสัยส่วนตัวเช่นกัน บริษัทใหญ่ๆ บางที่ถึงกับบอกว่าจะให้คำตอบของการสัมภาษณ์งานทางเฟซบุ๊ก แล้วเค้าก็จะเข้าไปดูทั้งการใช้ภาษาและทัศนคติของคุณในนั้น เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา เหมือนกับบริษัทแห่งหนึ่งที่เวลารับสมัครคนมาทำงานเค้าจะส่งรถไปรับผู้สมัครมาตั้งแต่สนามบินหรือสถานีรถไฟเลย เพื่อมาสัมภาษณ์ หลายคนมองว่าเป็นการแสดงศักยภาพและความพร้อมของบริษัท แต่สิ่งที่ผู้สมัครไม่รู้ก้คือคนขับรถก็เป็นฝ่ายบุคคลคนหนึ่งที่คอยดูพฤติกรรมของคุณตั้งแต่นอกห้องสัมภาษณ์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง หรือบางที่ก็ใช้วิธีถามจากแม่บ้านว่าเวลามาเสิร์ฟน้ำให้คุณ คุณมีปฏิกิริยาอย่างไร นี่คือสิ่งที่บริษัทสมัยใหม่ต้องการจะรู้นอกจากในห้องสัมภาษณ์งาน   ลองใส่รองเท้าของผู้สัมภาษณ์ดูบ้าง 31.11 ที่สุดแล้วการสมัครงานมันก็เป็นเรื่องของใจเขาใจเรา บางทีเราอาจจะลองถอยตัวเองออกมาแล้วไปใส่รองเท้าของเจ้าของกิจการและคนที่สัมภาษณ์คุณว่าเค้าต้องการอะไรจากคุณ นั่นคือสิ่งที่คุณควรจะให้กับเค้า และถ้าสิ่งที่คุณเป็นไม่ขัดอะไรกับสิ่งที่เค้าต้องการ ก็จงแสดงออกมาให้เต็มที่   ขอบคุณบทความดีๆ จาก www.themomentum.co  ต้นฉบับ https://themomentum.co/carpediem-ep013/   *beta version
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จของ บริษัท แอปเปิ้ล ในวันนี้ยังอยู่ภายใต้เงา สตีฟ จ็อบส์ หนังสือชีวประวัติของเขาที่เขียนโดย วอลเตอร์ ไอแซคสัน บอกให้เรารู้ว่า สตีฟ จ็อบส์ เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม แต่กว่าจะประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ง่าย และหนึ่งในวิธีที่ทำให้ สตีฟ จ็อบส์ ประสบความสำเร็จที่คุณอาจไม่เคยรู้ คือ สตีฟ จ็อบส์ เป็นคนที่กล้าขอความช่วยเหลือ   คนส่วนใหญ่ไม่เคยยกโทรศัพท์ขึ้นแล้วโทรหาใครสักคนเพื่อขอความช่วยเหลือ และนั่นคือสิ่งที่แบ่งแยกระหว่างคนที่ตั้งใจจริง กับคนที่ฝันกลางวัน   ทำไมการขอความช่วยเหลือจึงเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของ สตีฟ จ็อบส์ ในสารคดี Steve Jobs: Visionary Entrepreneur ที่เผยแพร่ทางช่องยูทูบของสมาคมประวัติศาสตร์ซิลิคอนวัลเลย์ (Silicon Valley Historical Association) จ็อบส์ได้เล่าเรื่องของเขาตอนอายุ 12 ปีว่า ตอนนั้นเขามองหาของที่จะเป็นอะไหล่ในการสร้างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่รู้จักกันในชื่อ ‘เครื่องนับความถี่’ ด้วยการเปิดสมุดโทรศัพท์เมืองพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย และหาเบอร์ บิล ฮิวเลตต์ (Bill Hewlett) ผู้ก่อตั้งบริษัท Hewlett-Packard (HP) ซึ่งผลิตอุปกรณ์ที่เขากำลังตามหา จากนั้นจ็อบส์ตัดสินใจโทรศัพท์ทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือ “ผมอยากสร้างเครื่องนับความถี่ และถ้าคุณพอจะมีอะไหล่ที่ผมอยากจะได้…” เขาบอกว่าบิลไม่ได้ให้เขาแค่อะไหล่เท่านั้น แต่บิลให้งานเขาทำในช่วงซัมเมอร์ที่บริษัท Hewlett-Packard (HP) ในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต โดยเขาเป็นคนใส่น็อตและเกลียวของเครื่องนับความถี่ “เขาให้งานผมทำในโรงงานผลิตอุปกรณ์พวกนั้น ผมดีใจสุดๆ และมีความสุขมาก…” ถึงตรงนี้คุณอาจสงสัยว่า ทำไมเด็กอายุแค่ 12 ปี ถึงกล้าโทรศัพท์หาผู้ก่อตั้งบริษัทด้านเทคโนโลยีชื่อดังเพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะที่หลายคนอาจกลัว  เกรงใจ หรือกระทั่งไม่กล้าพอที่จะทำเช่นนั้น   ถ้าคุณกลัวความล้มเหลว คุณก็ไปไม่ได้ไกล   แต่สตีฟ จ็อบส์ กล้าคิดและลงมือทำ และนี่คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของเขา “คนส่วนใหญ่ไม่เคยยกโทรศัพท์ขึ้นแล้วโทรหาใครสักคนเพื่อขอความช่วยเหลือ และนั่นคือสิ่งที่แบ่งแยกระหว่างคนที่ตั้งใจจริง กับคนที่ฝันกลางวัน” สตีฟ จ็อบส์ มองว่าการร้องขอความช่วยเหลือที่อาจดูน่าอับอายในบางครั้ง ทำให้เขาได้ครอบครองในสิ่งที่ต้องการจริงๆ ในขณะที่การไม่ร้องขอสิ่งใดเลย อาจทำให้โอกาสดีๆ สูญหายไปต่อหน้าต่อตา “ในชีวิตผม มีหลายครั้งที่ผมต้องดิ้นรน รวบรวมความกล้าเพื่อร้องขอบางอย่างที่ต้องการ ทั้งกลัวว่าจะถูกปฏิเสธ หรือว่ารู้สึกสมเพชตัวเองที่ต้องไปขอร้องใคร แต่ก็มีหลายครั้งที่ได้ผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจ เพราะผมกล้าที่จะร้องขอ “เช่นตอนที่ผมและเพื่อนสนิทฉลองเรียนจบอยู่ในคลับช่วงสุดสัปดาห์ ผมเอ่ยขอสาวสวยที่เป็นเพื่อนของเพื่อนร่วมห้องผม เต้นรำกับผม (เธอตอบตกลง และเราก็เต้นรำกันตามโอกาส อย่างน้อยก็วันนี้ล่ะ) “หรือจะเป็นตอนที่ผมใช้ความกล้าขอเลื่อนตำแหน่งครั้งแรก และได้เลื่อนตำแหน่งหลังจาก 4 ปีแห่งการรอคอยและความหวังที่จะได้เลื่อนขั้น” จ็อบส์กล่าว จ็อบส์เล่าอีกว่า เขาแทบไม่เคยเจอคนที่ปฏิเสธโทรศัพท์ของเขา หรือวางโทรศัพท์ใส่เขาเลยเวลาที่เขาโทรหา โดยให้เหตุผลว่า มันต้องมีทักษะในการขอความช่วยเหลือเพื่อจะได้บางอย่างที่คุณต้องการ เช่น การร้องขอต้องอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ประเมินสถานการณ์ว่าเขาต้องการอะไร แล้วให้ข้อเสนอที่ทำให้ทั้งคุณและเขาได้ประโยชน์ ตลอดชีวิตที่ผ่านมา สตีฟ จ็อบส์ ขอความช่วยเหลือจากคนมานับไม่ถ้วน และเมื่อไหร่ที่มีคนมาขอความช่วยเหลือจากเขา เขาจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนบุญคุณ “ถ้าคุณกลัวความล้มเหลว คุณก็ไปไม่ได้ไกล”   คุณต้องทำในสิ่งที่ต้องทำ และคุณต้องเต็มใจที่จะพบกับความล้มเหลว พร้อมที่จะพุ่งชนทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะกับคนในโทรศัพท์ หรือกับการเริ่มทำงานใหม่ หรืออะไรก็ตาม   จ็อบส์เล่าว่า การไม่ยอมเอ่ยปากร้องขอความช่วยเหลือในสิ่งที่ต้องการ เป็นการสูญเสียโอกาสดี แม้ว่าจะไม่มีใครอยากโดนตราหน้าว่าเป็น ‘คนล้มเหลว’ แต่คนที่ประสบความสำเร็จอย่าง สตีฟ จ็อบส์ ผ่านความล้มเหลวมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าจะถูกไล่ออกจากบริษัทที่ตนเองร่วมก่อตั้ง หรือยอดขายของผลิตภัณฑ์ใหม่ล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังลงมือทำตามความฝัน และเดินหน้าต่อไปโดยไม่กลัวว่าเขาจะล้มเหลว “คุณต้องทำในสิ่งที่ต้องทำ และคุณต้องเต็มใจที่จะพบกับความล้มเหลว พร้อมที่จะพุ่งชนทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะกับคนในโทรศัพท์ หรือกับการเริ่มทำงานใหม่ หรืออะไรก็ตาม “ลองคิดว่าอะไรที่คุณต้องการจริงๆ แล้วลุยเข้าไปทำสิ่งที่ต้องการ ให้เวลาและพลังกับสิ่งนั้นเพื่อเรียนรู้ทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ใหม่ๆ ลงทุนไปกับความสัมพันธ์ที่คุณต้องการเรียกใช้เมื่อคุณพร้อม และเมื่อคุณรู้สึกว่ามันถึงเวลา ที่สำคัญอย่าลืมที่จะทำสิ่งหนึ่งที่จะช่วยคุณได้สิ่งที่ต้องการ นั่นคือ การขอความช่วยเหลือ” เมื่อลองคิดดูแล้ว กลยุทธ์การขอความช่วยเหลือของ สตีฟ จ็อบส์ สอนให้รู้ว่า การขอความช่วยเหลือจากใครสักคนไม่ใช่เรื่องผิดหรือน่าอาย ขณะที่คนที่ไม่คิดจะทำอะไรเลยต่างหากที่น่าอาย ฉะนั้นถ้าต้องการความช่วยเหลือ จงขอความช่วยเหลือ เพราะอย่างน้อยที่สุดการลงมือทำก็ทำให้คุณไม่ปล่อยโอกาสดีๆ หลุดมือ!   อ้างอิง: https://www.youtube.com/watch?v=zkTf0LmDqKI http://www.inc.com/glenn-leibowitz/how-to-use-steve-jobss-insanely-simple-strategy-for-getting-what-you-want.html?cid=cp01002fastco   ขอบคุณบทความดีๆ จาก www.themomentum.co  ต้นฉบับ https://themomentum.co/successful-advice-and-how-to-steve-jobs/   *beta version
5 เกมสนุกๆ ชิวๆ ที่เหมาะมาก! กับคนวัยทำงาน แอดมินเป็นหนึ่งคนค่ะ ที่ชอบเล่นเกมมากกกกกกก วันไหนเครียด วันไหนว้าวุ่น เกมจะเป็นสิ่งที่คอยปลดเปลื้องความตึงเครียดของแอดมินได้ และตามหลักแล้วเมื่อเราเจออะไรดีๆ ก็ไม่ควรเก็บไว้คนเดียว ดังนั้นแล้วแอดมินจึงคัดเน้นๆ เกมที่เล่นแล้วสนุกมาแนะนำเกมให้เพื่อนๆ ได้ลองเล่นกันค่ะ   1. Stardew Valley Stardew Valley เป็นเกมแนวปลูกผักทำสวนที่จะพาคุณหลุดออกจากโลกแห่งการทำงานในออฟฟิศป่าคอนกรีดที่สุดแสนจะอับทึบ ด้วยดนตรีที่ผ่อนคลาย ฟังแล้วคิดถึงธรรมชาติ เสียงน้ำไหล และรูปแบบการเล่นที่สนุกสนานจนแทบไม่อยากวางมือ จึงเป็นเกมที่เราแนะนำอยากให้คุณลองดูซักครั้ง ด้วยงบประมาณที่ไม่เกิน 500 บาท และไม่กินทรัพยากรคอมพิวเตอร์มาก (ผู้เขียนใช้คอมพิวเตอร์รุ่นเก่าเมื่อ 9 ปีที่แล้วก็ยังสามารถเล่นได้) คะแนน: 10/10 อาชีพที่เหมาะกับเกมนี้: นักสร้างทั้งหลาย(สถาปนิก, วิศวกร ฯลฯ), ชาวสวน, คนที่รักธรรมชาติ, คนที่อยากผ่อนคลาย ราคา: Steam 315 บาท, App Store 279 บาท, Play Store เกมรอวางจำหน่าย ดาวน์โหลด:     2. Dungeon Maker เป็นคนดีในที่ทำงานมาเยอะแล้วใช่ไหม ลองมาเป็นจอมมารดูกันบ้าง กับเกม Dungeon maker เกมแนววางแผนสร้างกับดักในห้องของจอมมารเพื่อเล่นงานเหล่าผู้กล้าที่ทำเท่มาบุกรังของคุณซึ่งเล่นเพลินมากๆ ลักษณะการเล่นจะเป็นรอบๆ เมื่อจบ 1 รอบเกมจะบันทึกอัตโนมัติ จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ต้อง standby หรือรองาน เพราะหากงานเข้าก็สามารถปิดเกมแล้วทำธุระต่อได้ทันที ราคาก็ถูกแสนถูก แอดมินได้มาในช่วงลดราคาอยู่ที่ประมาณ 30 บาท แต่ช่วงที่ไม่ลดราคา จะอยู่ที่ประมาณ 90 บาท และเป็นเกมที่ทางผู้พัฒนาขยันออกลูกเล่นมาให้คนซื้อได้ลองอยู่เรื่อยๆ ด้วย บอกได้ว่าคุ้มค่ามากๆ ราคาเท่าข้าวแค่สองจานแบบนี้ ต้องลองค่ะ! คะแนน: 9.5/10 อาชีพที่เหมาะกับเกมนี้: ทุกอาชีพ ราคา: App Store 99 บาท, Play Store 89 บาท ดาวน์โหลด:     3. Pokemon Shuffle สำหรับคนที่รักชอบในความน่ารักของเหล่าโปเกม่อน และชื่นชอบเกมใช้สมอง Pokemon Shuffle เป็นเกมแนว Puzzle ที่ให้คุณเรียงหน้าโปเกม่อนให้เป็นเส้นตรงอย่างน้อย 3 ชิ้น เมื่อเรียงจนครบ เราจะได้สิทธิ์ในการจับโปเกม่อนตัวดังกล่าว และเมื่อจับได้ เราสามารถนำโปเกม่อนที่จับมาได้มาใช้ในการช่วยจับโปเกม่อนตัวอื่นๆ อีก เหมาะมากกับสาวๆ ที่ชอบความท้าทายของเกม puzzle ยิ่งด่านหลังๆ นะคุณเอ๊ย ยากจนไม่กล้าคิดว่านี่เป็นเกมเด็กๆ เลยล่ะ และเกมนี้เล่นฟรีจ้า (เติมเงินได้นะเกมนี้) คะแนน: 7/10 แต่ถ้าติดเมื่อไหร่ 8.5/10 อาชีพที่เหมาะกับเกมนี้: นักเรียนนักศึกษา, พนักงานออฟฟิศ ราคา: Free ดาวน์โหลด:     4. surviv.io หลายๆคนคงชอบเกม PUBG ที่ฮิตอย่างถล่มทลายในช่วงปีที่ผ่านมา surviv.io เป็นเกมที่สร้างมาและใช้กติกาเดียวกับ PUBG เปี๊ยบ หากแต่ลดทอนรายละเอียดลงให้เหลือเพียงแค่รูปทรงเรขาคณิต โดยเราสามารถเปิดเล่นได้ใน browser ได้เลย เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ http://surviv.io ซึ่งแน่นอนว่าฟรี! และยังสามารถจับคู่เล่นกับผู้อื่นได้ด้วย หรือตั้งทีมเล่นกับเพื่อนสนิทได้ด้วยค่ะ คะแนน: เล่นคนเดียว 9/10 ถ้ามีเพื่อนที่รู้ใจเล่นด้วย 10/10 อาชีพที่เหมาะกับเกมนี้: นักเรียนนักศึกษา, คนที่ชอบเกมแนว PUBG ราคา: Free Link: surviv.io     5. Pocket City  สำหรับนักสร้างบ้านสร้างเมือง หรือคนที่ไม่พอใจรัฐบาลเรื่องผังเมือง เราขอแนะนำ Pocket City เกมสร้างเมืองที่เล่นเพลินและง่ายมากๆ เพียงแค่คุณจัดสรรให้ดี สร้างทรัพยากรและถนนตามที่ประชาชนต้องการ ในเกมจะมี quest เพื่อช่วยสอนและทำให้เราสร้างเมืองอย่างมีจุดมุ่งหมาย เกมนี้มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ลองดูนะคะเหล่านักเล่นเดอะซิมส์และนักสร้างทั้งหลาย คะแนน: 7/10 อาชีพที่เหมาะกับเกมนี้: สถาปนิก, วิศวกร, ราชการผังเมือง, คนที่รักในการสร้างสรรค์และออกแบบ ราคา: App Store 139 บาท, Play Store 125 บาท ดาวน์โหลด:   หลายๆ คนก็อาจจะงงนะคะ ว่าทำไมเราถึงเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องเกม แต่แอดมินคิดว่าเราทุกคนทำงานหรือหางานก็ตึงเครียดพออยู่แล้วใช่ไหมคะ เกมเป็นอะไรที่สามารถผ่อนคลายความเครียดให้กับเราได้ในราคาที่ไม่แพง ดังนั้นแอดมินจึงอยากนำเสนอเกมดีๆ ให้เราได้ผ่อนคลายกัน  อ้อ อย่าเล่นเพลินจนลืมทำงานนะคะ เดี๋ยวจะตกงานเอา แต่ถ้าตกงานขึ้นมา Job-D ช่วยคุณหางานใหม่ได้นะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ รอดูนะคะว่าเราจะมีอะไรดีๆ มานำเสนออีก :)
10 วิธีหางานอย่างไรไม่ให้โดนหลอก พิจารณาง่ายๆดังนี้ 1. มีที่อยู่เป็นตัวเป็นตน มีออฟฟิศ มีหน้าร้าน มีชื่อบริษัท หรือข้อมูลต่างๆที่เชื่อถือได้ ขอแนะนำว่าให้ไปดูที่ทำงานด้วยตัวเองให้เห็นกับตาจะดีที่สุด 2. หากไม่แน่ใจว่าบริษัทมีตัวตนจริงหรือไม่ ท่านสามารถนำชื่อบริษัทหรือที่ทำงานไปค้นหาได้จาก - เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า https://datawarehouse.dbd.go.th - เว็บไซต์ dataforthai https://www.dataforthai.com 3. เมื่อสมัครงาน ที่ทำงานปกติมักไม่ร้องขออะไรจากเราก่อนเริ่มงาน เช่น โอนเงินค่าสมัคร(ที่ค่อนข้างแพง) ถ้าเจอว่าต้องโอนเงินก่อนเริ่มงาน ไม่ว่าจะเป็นค่าสมัคร, ค่าชุดทำงาน, ค่าอุปกรณ์ ให้ระวังให้ดี 4. แต่อย่าสับสนกับเงินประกัน งานบางตำแหน่ง และบางที่ทำงานจะขอให้เราวางเงินประกัน เพื่อให้เราไม่ทิ้งงานระหว่างการทำงาน อย่านำไปรวมกับแบบแรก และการเรียกเงินประกันจากนายจ้าง จะทำกันก็ต่อเมื่อเขารับเราทำงาน เราได้เข้าไปในออฟฟิศ เห็นออฟฟิศเป็นหลักเป็นการแน่นอนแล้ว 5. การสมัครงานผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line) และ Google Form มีหลายที่ทำงานที่ขอให้เรากรอกประวัติทางช่องทางนี้ ขอให้ดูว่าที่ทำงาน มีที่อยู่เป็นตัวเป็นตน มีหน้าร้านชัดเจน หรือมีชื่อในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือไม่ 6. หากมีการเรียกร้องขอเลขบัญชี ซึ่งผู้ไม่ประสงค์ดีมักจะขอเพื่อโอนเงินค่าจ้างให้ ให้ระมัดระวัง ที่ทำงานปกติจะไม่ขอเลขบัญชีของเราจนกว่าเราจะได้ไปเริ่มทำงานที่ออฟฟิศอย่างจริงจัง (รวมถึงเอกสารส่วนตัว เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, หนังสือมอบกรรมสิทธิ์, username password ของท่าน ฯลฯ) 7. ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดนี้ การทำงานแบบ work form home กำลังเป็นที่นิยม ทำให้มิจฉาชีพสบโอกาสในการหลอกลวงคนที่กำลังหางาน จงสังเกตชื่อที่ทำงาน หน้าที่ในการทำงาน ที่อยู่ของบริษัทให้ดีก่อนสมัคร 8. ธุรกิจผิดกฎหมายและการพนันก็กำลังหลอกคนเข้าร่วมโดยการสมัครงาน ขอให้ท่านใช้วิจารณญาณในการพิจารณาให้จงหนัก 9. ระวังการคลิกลิงค์แปลกๆ ผู้ไม่หวังดีทำทีเป็นคนรับสมัครงานส่งมาให้ อาจเป็นไวรัสหรือเป็นการหลอกเอาข้อมูลเลขบัญชี username และ password ดูการป้องกันได้ที่ - https://www.catcyfence.com/it.../article/what-is-phishing ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.catcyfence.com - https://www.thaicert.or.th/.../general/2012/pa2012ge007.html ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.thaicert.or.th 10. "งานสบาย รายได้ดี ไม่มีจริง" สุดท้ายนี้ "อย่าอยากได้งานได้เงินมากกว่า สวัสดิภาพของตัวท่านเองและครอบครัว" ตัวอย่างการรับสมัครงานที่หลอกลวง https://www.bigcamera.co.th/.../clarification-documents... กรณีศึกษามิจฉาชีพปลอมเป็นร้าน BIG camera ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.bigcamera.co.th https://www.cm108.com/w/35072 เตือนภัยหลอกรับสมัครงาน ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.cm108.com https://www.nationtv.tv/main/content/378798210 กรณีศึกษา "สาวโดนหลอกให้สมัครงานเสียเงินฟรี" ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.nationtv.tv Like

Songkhla Jobd - มืออาชีพ เรื่องอาชีพ

"ลงงานฟรี ไม่มีสมัคร"

info@songkhlajobd.com

Follow Us
ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร
© 2017 songkhlajobd.com - All rights reserved.